ปัจจัยสำคัญวันนี้ : 21 มิ.ย. 2554
Strategy
การลงทุนระยะสั้น
1. เรื่องปัญหาหนี้สิน ของกรีซ ยังเป็นปัจจัยสำคัญว่าจะได้รับการแก้ไขหรือไม่ โดย ใน 1-2วัน รัฐสภากรีซจะมีมาตรการรัดเข็มขัดออกมา ถ้าผ่านได้ก็จะทำให้ EU และ IMF สามารถให้เงินช่วยเหลือเพิ่มเติมได้
2. ปัจจัยสนับสนุนการเก็งกำไร เช่น เรื่องการเมือง, การทำ Window Dressing
แต่ก็ยังคงมองว่าการปรับตัวขึ้นในช่วงนี้ก็ยังเป็นการปรับตัวขึ้นในตลาดที่ยังเป็นขาลงระยะกลางอยู่ เพราะโอกาสในการปรับบานในช่วงต้นไตรมาสที่ 3 ยังคงมีอยู่เนื่องจากปัจจัย QE2 และความเสี่ยงเรื่องการเมืองหลังเลือกตั้งได้
การลงทุนระยะยาว
1. เป็นโอกาสในการซื้อหุ้นอีกครั้ง เพราะการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก
น่าจะมาจากเหตุผลชั่วคราวคือ
น่าจะมาจากเหตุผลชั่วคราวคือ
1.1 แผ่นดินไหวที่ประเทศญี่ปุ่น
1.2 ราคาน้ำมัน เกิดจากความกังวลเรื่องแรงกดดันเงินเฟ้อ
โดยเรายังคงมั่นใจในความแข็งแกร่งของผลประกอบการและ กำไรของบจ. ซึ่งจะทำให้ต่างชาติกลับมาซื้อหุ้นไทยได้อีกครั้งหนึ่ง
เป้าหมาย SET index ปีนี้อยู่ที่ 1250 จุด
กลยุทธ์การลงทุนระยะสั้น: ปัจจัยสำคัญที่กำหนดทิศทางก็คือ เรื่องของปัญหาหนี้สินของประเทศกรีซ ซึ่งบล. กสิกรไทย ก็ยังคงเชื่อว่าจะประสบความสำเร็จในการแก้ปัญหาไปได้ และจะทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลง พร้อมกับทำให้ ตลาดหุ้น rebound ขึ้นมาได้อีกครั้ง โดยเฉพาะราคาน้ำมัน
แต่ ถ้ารัฐบาลกรีซ ไม่สามารถแก้ไขปัญหาหนี้ได้ ก็จะทำให้ หุ้นเกิด Downside risk ซึ่งจะใช้ จุด stop ทางเทคนิคช่วยได้
แนะนำเก็งกำไรในหุ้นขนาดใหญ่ ได้แก่
1. หุ้นกลุ่ม ธนาคาร (BBL KTB SCB)
2. หุ้นกลุ่ม อสังหาริมทรัพย์ (SPALI LPN STEC)
3. หุ้นกลุ่มส่งออก (เนื่องจากการอ่อนค่าลงของเงินบาท) (TUF CPF และ SVI
4. หุ้นที่คาดว่าผลประกอบการ ไตรมาสที่ 2 จะออกมาดี และมีการจ่ายเงินปันผลในงวดครึ่งปี CPF TVO HMPRO BAFS ADVANC MAJOR MCOT และ SPALI
5. หุ้นที่คาดว่าจะมีการทำ window dressing เช่น TOP MINT BTS LPN SPALI STEC TICON TISCO SF
กลยุทธ์การลงทุนระยะกลาง (3-6 เดือน): เป็นโอกาสในการสะสมหุ้น เพราะเชื่อว่า stagflation หรือ Double Dip เกิดขึ้นได้น้อย เพราะเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอ ก็เป็นเพียงแค่ sentiment ระยะสั้น
ที่มา: บริษัท หลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น